ความเป็นมาของอุปกรณ์ “ SOUNdRONiC ”
การประดิษฐ์อุปกรณ์ “ SOUNdRONiC ” เพื่อใช้ในประเทศไทยเป็นหลัก นำไปแก้ปัญหาเรื่องการก่อตัวคราบตะกรันหินปูนแคลเซียมแข็ง คราบไบโอฟิล์ม คราบแมกนีเซียม และคราบสนิมเหล็ก ที่เกิดมาจากการใช้น้ำบาดาลน้ำผิวดินในปริมาณที่มากต่อวันและส่งผลกับระบบท่อทางส่งน้ำบาดาล ปั้มน้ำ วาล์วเปิดปิดน้ำ ติดขัด และครีบระบายความร้อนของคูลลิ่งน้ำบาดาล แคลเซียมในน้ำ (CaCO3 Hardness) ประมาณ 400- 500 mg/l ระบบการผลิตน้ำเดินตลอด ๒๔ ชั่วโมง อัตราการใช้น้ำที่ ๘๐ คิว / ชั่วโมง เพื่อป้อนเข้าสู่ไลน์ผลิต ของบริษัทฯ ต่างๆ เนื่องมาจากปัญหาตะกรันหินปูนแคลเซียม แมกนีเซียม CaCO3 Hardness ประมาณ 400- 500 mg/l และคราบสนิมที่มาจากสาเหตุของการใช้น้ำบาดาลในปริมาณที่มากต่อวัน เกาะที่ผนังท่อทางส่งน้ำปั้มน้ำ และวาล์วทำให้เปิดปิดวาล์ไม่ได้ หินปูนสะสมในท่อมานานทำให้ท่อส่งน้ำด้านในเล็กลง ที่ระบบท่อส่งน้ำบาดาลขาเข้าและขาออกจากการระบายความร้อนด้วยคูลลิ่ง ซึ่งเป็นท่อเหล็กขนาดหกนิ้ว จากขนาดท่อส่งน้ำขนาดหกนิ้ว มีตะกรันเกาะหนาจนเหลือเพียงช่องส่งน้ำเท่าขนาดท่อสี่นิ้ว ทำให้การขนส่งน้ำในท่อไม่เพียงพอต่อความต้องการในการผลิตน้ำเพื่อส่งเข้าไลน์ผลิต ทำให้การผลิตต้องหยุดชะงัก ทำให้เสียโอกาศในการผลิตสินค้าหลายชั่วโมง ต่อการหยุดแต่ละครั้ง
วิธิเดิมที่ใช้ในการแก้ปัญหา
ตัดต่อท่อ และเปลี่ยนท่อใหม่ เปลี่ยนปั้ม และวาล์วใหม่ เท่านั้นยังไม่พอ ในระบบถังกรองทรายน้ำบาดาลก็ยังอุดตันเร็วมากเนื่องจากหินปูนเกาะแน่นกับทรายในถังกรอง (ประมาณห้าถึงเจ็ดวันก็อุดตันแล้ว)
ต้องถอดล้างถังกรองทรายและต้องใช้เครื่องเจาะกระแทกในการเอาตะกรันหินปูนออกจากถังกรองทราย ซึ่งทำให้เสียเวลามาก และใช้เวลานานกว่าจะเสร็จสิ้น และต้องเปลี่ยนทรายกรองใหม่ด้วย ซึ่งทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำสูงขึ้นตามลำดับ
และต้องมีการใช้กรดเกลือเข้มข้นสูงในการล้างชุดสะแตนเนอร์ด้วย (ระบบกรองน้ำตันทุกๆ สัปดาห์ หรือ ยิ่งใช้น้ำมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตันเร็วเท่านั้น)
